ยินดีตอนรับเข้าสู่โลกของ Raspberry pi

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา → มาถึงก็เข้าเรื่องกันเลยตามหัวข้อจะเป็นการพูดถึง วิธีการ Run program on startup of Raspberry pi. เมื่อเรามี Programs ที่ต้องการให้ทำงานตอน "Start up" Raspberry pi

มีทั้งหมด 4 วิธีการ

1. rc.local
2. /etc/init.d
3. systemd
4. croncap

โดยก่อนจะเริ่ม ทางเราได้ทำการเตรียม Script python เพื่อทดลอง

import paho.mqtt.client as mqtt
import time
import os


if __name__ == "__main__":
    host = "XXX-700-XXXXX.XXX.CO.TH"
    port = 1883
    client = mqtt.Client("Rasp1")
    client.connect(host)

    f = os.popen('ifconfig wlan0 | grep "inet 163" | cut -c 14-26')
    myip=f.read()
    print(myip)

    while True:
        client.loop_start()
        client.publish("ipAddr/Rasp/NPMSA414", str(myip))
        time.sleep(60)
        client.loop_stop()

Python Script ด้านบนเป็นการใช้งานให้ Raspberry pi ส่ง ipAddr กลับไปที่ MQTT Broker ในกรณีที่ใช้งานใน Company ที่ไม่สามารถ Static IP

/home/pi/ipAddr/ipAddr.py

Method 1. ใช้งาน rc.local

ทำการ Edit file /etc/rc.local โดยการรันโดย root permissions

sudo nano /etc/rc.local

จากนั้นทำการ Add commands บรรดทัดสุดท้ายก่อน exit 0 and save file ( Ctrl + X→ Y )

โดยถ้าหากต้องการให้ script continuously run ให้ทำการใส่ “&” ปิดท้าย command

sudo /usr/bin/python3 /home/pi/ipAddr/ipAddr.py &

ทำการ Restart raspberry pi

sudo reboot

Method 2. การใช้งาน /etc/init.d

วิธีที่ 2 การรันผ่าน /etc/init.d โดยการนำ สร้าง script ไปไว้ที่ /etc/init.d

sudo nano /etc/init.d/ipAddr เมื่อทำการย้าย Script เสร็จให้ทำการ Edit Script editor ( ผมเลือกใช้งาน nano )

เพื่อทำการเพิ่ง script linux standard base ( LSB ) สำหรับ init script

# /etc/init.d/ipAddr.py
### BEGIN INIT INFO
# Provides:          ipAddr.py
# Required-Start:    $remote_fs $syslog
# Required-Stop:     $remote_fs $syslog
# Default-Start:     2 3 4 5
# Default-Stop:      0 1 6
# Short-Description: Start daemon at boot time
# Description:       Enable service provided by daemon.
### END INIT INFO
case "$1" in
 start)
  echo "Start Application"
  sudo /usr/bin/python3 /home/pi/ipAddr/ipAddr.py
  ;;

 stop)
  echo "Stop Application"
  /usr/bin/python3 -kill :1
  ;;

 *)
  echo "Usage: /etc/init.d/startApp {start|stop}"
  exit 1
  ;;
esac

exit 0

จากนั้นทำให้เป็น executable file

cd /etc/init.d/
sudo chmod +x ipAddr
sudo update-rc.d ipAddr defaults
sudo reboot

ขั้นตอนการเรียกใช้งานผ่าน start|stop

sudo /etc/init.d/ipAddr start
sudo /etc/init.d/ipAddr stop
Method 3. การใช้งาน Systemd

ขั้นตอนที่ 3 เป็นใช้งาน systemd files ในการ start up python script

ขั้นตอน 1 : ทำการสร้าง .service ขึ้นมา

sudo nano /home/pi/ipAddr/ipAddr.service

แล้วทำการเพิ่ม Code

[Unit]
Description=My Sample Service
After=multi-user.target

[Service]
Type=idle
ExecStart=/usr/bin/python3 /home/pi/ipAddr/ipAddr.py
Restart=always
RestartSec=5

[Install]
WantedBy=multi-user.target

ตั้งค่า permission chmod 644 ให้กับ file

sudo chmod 644 /home/pi/ipAddr/ipAddr.service

ขั้นตอน 3 : ทำการ configure systemd

ขั้นตอนนี้จะเป็นการ เรียกใช้งาน .service ที่สร้างมาเพื่อให้ ทำงานตอน start up

sudo systemctl deamon-reload
sudo systemctl enable /home/pi/ipAddr/ipAddr.service

จากนั้นทำการ Reboot

sudo reboot

วิธีการ log

sudo systemctl status ipAddr

Method 4. การใช้งาน Crontab

เริ่มต้นใช้งาน Crontab โดยจะต้อง open in root

sudo crontab -e

จากนั้นทำการเพิ่ม command ที่ บรรทัดล่างสุดที่จะใช้ run script python ตอน start up

@reboot sudo python /home/pi/ipAddr/ipAddr.py /home/pi/ipAddr/log.txt

จากนั้นทำการ save and reboot raspberry pi

sudo reboot

เมื่อ restart pi เสร็จจะพบว่ามีการสร้างไฟล์ log.txt ขึ้นมา

สามารถ Check syslog ได้ถ้าเกิดปัญหา

grep cron /var/log/syslog

Conclusion

วิธีทั้งหมดขึ้นที่ยกตัวอย่างมา ใช้เวลาต้องการเรียกใช้งานโปรแกรมเมื่อ Start up สำหรับ raspberry pi โดยตัวอย่างเป็นการเรียกใช้งาน script python โดยแต่ละวิธีการเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับรูปแบบการนำไปใช้งานและความชอบของผู้ใช้งาน